1. คุณต้องสร้างความมั่นใจด้วยตัวเอง
ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนล้วนมีความมั่นใจซ่อนอยู่ด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อมั่นในตัวเองมากน้อยแค่ไหน ยิ่งคุณผ่านอุปสรรคมากเท่าไร คุณจะยิ่งค้นพบความความเชื่อมั่น และแข็งแกร่งที่อยู่ภายในมากยิ่งขึ้น
2. เพิ่มแรงบันดาลใจให้ตัวเอง
การจุดไฟแห่งความเชื่อนั้นบางครั้งก็ต้องใช้ความแรงจูงใจ และแรงผลักดันเพื่อให้คุณได้ก้าวไปถึงเส้นชัย เหมือนอย่างไมเคิล จอร์แดน นักบาสเก็ตบอลชื่อดัง หลายนัดที่เขาพ่ายแพ้ หลายเกมที่เขาทำได้ไม่ดีอย่างที่ตั้งใจ แต่ความล้มเหลวที่ผ่านเข้ามานี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจ และกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาต้องพัฒนาฝีมือยิ่งๆขึ้นไป เพื่อให้เข้าใกล้ชัยชนะได้มากที่สุด ความพ่ายแพ้ที่สร้างความสตรองของแท้เลย
3. สร้างทัศนคติเชิงบวกต่อความสำเร็จ
คุณสามารถปลุกพลังแห่งความเชื่อของคุณได้ด้วยการคิดบวก เพราะพลังของการมองโลกในแง่ดีจะช่วยเปิดทัศนคติ และโน้มน้าวให้คุณกล้าที่จะลงมือทำ และตรงกันข้าม ถ้าคุณมีความคิดในเชิงลบต่อความสำเร็จแล้วล่ะก็ คงจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะปลุกความเชื่อในตัวเองขึ้นมาได้
4. มองว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะคะ ตรงกันข้ามสิ่งเหล่านั้นคือ ระหว่างทางของการเดินไปสู่ความสำเร็จเท่านั้นเอง เมื่อคุณเก็บมาวิคราะห์ว่าคุณทำพลาดตรงไหน แล้วหาทางแก้ไขไปเรื่อยๆจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
5. ตัดความคิดเชิงลบออกไปบ้าง
เวลาเจอปัญหาหลายครั้งในใจเราอาจจะคิดว่า พอเถอะไปต่อไม่ไหวแล้ว ถ้าได้ยินคำนี้ในหัวให้ลองหยุดคิด แล้วหันไปนึกถึงเรื่องราวดีๆ ความคิดเชิงบวก และคอยเตือนตัวเองว่าจะต้อง ปิดประตูใส่ความคิดที่จะทำให้เราล้มเลิก และ เปิดรับเรื่องดีๆ เมื่อความคิดเชิงลบหายไป คุณจะค้นพบว่าคุณมีความเชื่อมั่นก็เพิ่มขึ้นเอง